หมวดหมู่: Movie

  • Wicked: For Good (2025) วิคเค็ด ภาค 2

    Wicked: For Good (2025) วิคเค็ด ภาค 2

    ชื่ออย่างเป็นทางการ: Wicked: For Good วันที่เข้าฉาย: 21 พฤศจิกายน 2025 ผู้กำกับ: จอน เอ็ม. ชู (Jon M. Chu) นักแสดงนำ: ซินเธีย เออริโว (Cynthia Erivo) เป็น เอลฟาบา (Elphaba), อะเรียน่า กรานเด (Ariana Grande) เป็น กลินด้า (Glinda), โจนาธาน เบลีย์ (Jonathan Bailey) เป็น ฟิเยโร่ (Fiyero), เจฟฟ์ โกลด์บลัม (Jeff Goldblum) เป็น พ่อมดแห่งออซ (The Wizard of Oz), มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) เป็น มาดาม มอร์ริเบิล (Madame Morrible)

    คะแนน IMDB และกระแสวิจารณ์ (เบื้องต้น)

     

    • คะแนน IMDB (คาดการณ์): เนื่องจากภาคแรกได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูง (และยังไม่มีการเปิดเผยคะแนนอย่างเป็นทางการสำหรับภาค 2) คาดว่าคะแนนจะอยู่ในระดับ โดยอิงจากความคาดหวังของแฟนเพลงและนักวิจารณ์
    • กระแสวิจารณ์โดยรวม: คาดว่าจะเน้นย้ำถึง ความลึกซึ้งของอารมณ์ และ การนำเสนอภาพที่มืดหม่นยิ่งขึ้น (a darker tone) ตามเนื้อเรื่องใน Act II ของละครเพลง นักวิจารณ์น่าจะยกย่องการแสดงของ ซินเธีย เออริโว และฉากไคลแม็กซ์ทางดนตรีที่ทรงพลัง ขณะที่ อะเรียน่า กรานเด จะได้รับการกล่าวถึงในการถ่ายทอดการเดินทางของ กลินด้า ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน

     

    เรื่องย่อโดยละเอียดและสปอยล์ (Plot Summary & Major Spoilers)

     

    Wicked: For Good ดัดแปลงมาจากองก์ที่ 2 (Act II) ของละครเพลงบรอดเวย์ชื่อดัง โดยเริ่มต้นหลังจากที่ เอลฟาบา (The Wicked Witch of the West) ได้ “ท้าทายแรงโน้มถ่วง” (Defying Gravity) และแยกทางกับ กลินด้า (Glinda the Good)

     

    การเดินทางที่แยกจากกัน (Estrangement and Consequences)

     

    1. เอลฟาบาในฐานะแม่มดชั่วร้าย: เอลฟาบาใช้ชีวิตในฐานะผู้หลบหนีและถูกตีตราเป็น แม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก อย่างสมบูรณ์แบบ เธอใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในป่าเพื่อต่อสู้เพื่อสิทธิของ สัตว์ ที่กำลังถูกคุกคามโดยอำนาจของ พ่อมดแห่งออซ เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะเปิดเผยความจริงอันชั่วร้ายของพ่อมด
    2. กลินด้าผู้มีชื่อเสียง: ในทางกลับกัน กลินด้า ได้รับการยอมรับอย่างเต็มตัวในฐานะ กลินด้าผู้แสนดี เธออาศัยอยู่ในพระราชวังมรกต (Emerald City) และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงามและเสน่ห์ดึงดูด ภายใต้การชักใยของ มาดาม มอร์ริเบิล ที่คอยใช้เธอเป็นเครื่องมือในการปลอบประโลมมวลชน
    3. ความรักที่ขมขื่น: กลินด้าและ ฟิเยโร่ (Jonathan Bailey) หมั้นหมายกันอย่างไม่เต็มใจ เพราะหัวใจของฟิเยโร่ยังคงเป็นของเอลฟาบา ความพยายามของกลินด้าที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างเอลฟาบาและพ่อมดจึงล้มเหลว นำไปสู่เหตุการณ์ที่ทำให้ฟิเยโร่ถูกจับกุม

     

    จุดหักเหที่นำไปสู่ชะตากรรม (The Arrival of Dorothy and Fiyero’s Fate)

     

    1. คำสาปของเนสซาโรส: เนสซาโรส (Nessarose) น้องสาวของเอลฟาบา (ซึ่งถูกแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการแห่งมันช์กินแลนด์) เริ่มกลายเป็นทรราชย์เพราะความขมขื่นและความรู้สึกถูกทอดทิ้ง เอลฟาบาใช้เวทมนตร์เพื่อ “ซ่อมแซม” รองเท้าของเนสซาโรส (ซึ่งต่อมากลายเป็น รองเท้าสีเงิน ในเรื่อง The Wizard of Oz) แต่เวทมนตร์นั้นกลับนำมาซึ่งความพินาศ
    2. การมาถึงของโดโรธี (Dorothy’s Arrival): มาดาม มอร์ริเบิล ใช้เวทมนตร์เพื่อสร้างพายุไซโคลนขนาดใหญ่เพื่อล่อให้เอลฟาบาออกมาจากที่ซ่อน และทำให้เกิดเหตุการณ์ที่บ้านของเด็กหญิงจากแคนซัสชื่อ โดโรธี เกล (Dorothy Gale) ตกลงมาทับร่างของเนสซาโรส ทำให้เธอเสียชีวิต กลายเป็น แม่มดชั่วร้ายแห่งบูรพา (Wicked Witch of the East)
    3. การตามล่าหาเอลฟาบา: เอลฟาบาเข้าสู่ความมืดมิดอย่างแท้จริง และสาบานว่าจะล้างแค้นให้กับน้องสาว โดยพยายามตามหาโดโรธีเพื่อเอารองเท้าของเนสซาโรสคืน ฟิเยโร่พยายามช่วยเหลือเอลฟาบา ทำให้เขาถูกจับและถูกทรมานโดย มาดาม มอร์ริเบิล
    4. การแปลงร่างของฟิเยโร่ (Major Twist – The Scarecrow): เอลฟาบาพยายามใช้เวทมนตร์สุดท้ายของเธอเพื่อปกป้องฟิเยโร่ แต่ทำได้เพียง “กัน” ตัวเขาจากภยันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นแทน ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนรูปร่างไปเป็น หุ่นไล่กา (Scarecrow)

     

    บทสรุปที่หวานปนขม (For Good)

     

    1. ความจริงเกี่ยวกับพ่อมด: กลินด้าค้นพบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าพ่อมดแห่งออซเป็นคนโกหก และอาจเป็น พ่อผู้ให้กำเนิดของเอลฟาบา อย่างแท้จริง ทำให้เธอเผชิญหน้ากับมาดาม มอร์ริเบิล และสั่งให้พ่อมดออกจากออซไป
    2. ฉากสุดท้าย (Faked Death): เอลฟาบาและกลินด้าพบกันเป็นครั้งสุดท้ายที่ปราสาทของเอลฟาบา เมื่อโดโรธีและพวกพ้อง (รวมถึงหุ่นไล่กา ฟิเยโร่) มาถึงและโยนน้ำใส่เอลฟาบาตามการชี้นำของพ่อมด เอลฟาบา “ละลาย” ต่อหน้าสาธารณชน แต่ฉากสุดท้ายเผยให้เห็นว่านี่คือ การจัดฉากการตาย ที่เอลฟาบากับฟิเยโร่ (ในร่างหุ่นไล่กา) วางแผนไว้ร่วมกัน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถหนีออกจากออซไปใช้ชีวิตร่วมกันได้
    3. การเสียสละของกลินด้า: กลินด้าต้องยอมรับที่จะอยู่ต่อเพื่อปกครองออซในฐานะ “กลินด้าผู้แสนดี” โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าเอลฟาบาเพื่อนรักของเธอยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองกล่าวคำอำลาผ่านเพลง “For Good” เป็นการยืนยันมิตรภาพที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของกันและกันไปตลอดกาล

     

    บทวิจารณ์เชิงวิพากษ์ (Critique)

     

    Wicked: For Good ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อเนื้อเรื่องที่ค้างคาจากภาคแรก และประสบความสำเร็จในการนำเสนอเรื่องราวบทสรุปที่เต็มไปด้วยความรัก มิตรภาพ และการเสียสละ:

    • ความเข้มข้นทางอารมณ์: ภาคนี้มุ่งเน้นไปที่ ผลที่ตามมา (Consequences) จากการตัดสินใจในภาคแรก ทำให้โทนของภาพยนตร์เข้มข้นและมืดหม่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉากดราม่าระหว่างเอลฟาบาและฟิเยโร่ รวมถึงความขัดแย้งของกลินด้าที่ต้องเลือกระหว่างความรักกับชื่อเสียงนั้นมีความกินใจอย่างยิ่ง
    • การแสดงดนตรีที่ทรงพลัง: การนำเสนอเพลงที่แฟนๆ รอคอยอย่าง “No Good Deed” ของเอลฟาบา ที่ถ่ายทอดการยอมรับในฉายา “แม่มดชั่วร้าย” ของเธอ และเพลงคู่สุดท้าย “For Good” ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก คาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของภาพยนตร์
    • การพัฒนาตัวละครของกลินด้า: บทวิจารณ์หลายส่วนคาดว่าจะยกย่องว่าภาคนี้เป็น “การเดินทางของกลินด้า” อย่างแท้จริง (Glinda’s trajectory) โดยแสดงให้เห็นการเติบโตของเธอจากสาวผิวเผินผู้คลั่งไคล้ชื่อเสียง สู่ผู้นำที่ต้องเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อความสงบสุขของออซ
    • การเชื่อมโยงกับ The Wizard of Oz: ภาคนี้จะทำหน้าที่เป็น สะพานเชื่อม ไปสู่เนื้อเรื่อง The Wizard of Oz ฉบับปี 1939 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเปิดเผยที่มาของหุ่นไล่กา (Scarecrow), มนุษย์ดีบุก (Tin Man – โบ๊ค), และแม่มดแห่งตะวันออก (Nessarose) ทำให้เรื่องราวมีมิติที่เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์

    ตัวอย่าง

     

    โดยสรุป Wicked: For Good ไม่ได้เป็นเพียงแค่บทสรุป แต่เป็นการขยายจักรวาลของออซให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยงานสร้างที่ตระการตาและหัวใจของมิตรภาพที่ไม่อาจแตกหัก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการปิดฉากเรื่องราว “เบื้องหลัง” ของแม่มดในตำนานได้อย่างน่าประทับใจและน่าจดจำ